รอบคัดเลือกโซนเอเชียสุดจะดุเดือด ญี่ปุ่นเชือดออสเตรเลีย

เพิ่งผ่านไปหมาดๆ กับการแข่งขันศึก คัดบอลโลกโซนเอเชีย และออสเตรเลีย รอบ 3 ในกลุ่ม B นัดที่ 4 ญี่ปุ่น พบ ออสเตรเลีย หลังจากหลายๆ คนคิดว่าทีมชาติญี่ปุ่นจะตกรอบคัดเลือก เพราะดูจากมาตรฐานการเล่นแล้วนั้น ญี่ปุ่นแพ้คู่แข่งไป 2 นัด ในบ้านนัดแรกแพ้ให้กับซาอุดิอาระเบียไป 0 – 1 แล้วก็แพ้นัดเยือนกับซาอุดิอาระเบียทั้งนี้ยังเสมอออสเตรเลียไป 1 นัด ในเกมเยือน แต่สุดทึ่ง ญี่ปุ่นก็สามารถจบด้วยอันดับ 4 ของกลุ่มมาอย่างหวุดหวิดด้วยสกอร์ 2 – 1 ที่พบกับออสเตรเลีย แต่ก็ยังมีความน่าเป็นห่วง เพราะ 6 นัดต่อจากนี้ญี่ปุ่นแทบจะพลาดไม่ได้เลย กับการที่ต้องเอาชนะรวดหรือ 5 เสมอ 1 เพราะถ้าหากทำได้น้อยกว่านี้ก็ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานอย่างแน่นอน

ทางส่วนของออสเตรเลียหลังจากนัดแรก บุกเยือนซาอุดิอาระเบีย ก็แพ้ไปอย่างน่าเสียดายด้วย สกอร์ 1 – 3 ซึ่งหลายๆ คนก็ผิดหวังกับทีมชาติออสเตรเลียไม่น้อยกับในการแข่งขันที่พบกับเวียดนาม ซึ่งออสเตรเลียนั้นมีอันดับโลกเหนือกว่าเวียดนามเยอะ แต่การเล่นนั้นไม่สมศักดิ์ศรีสักเท่าไหร่ หากลองมาวิเคราะห์แล้ว ออสเตรเลียครองบอลในสนาม แต่ไม่ยอมบุก กองหลังไม่ดัน เหมือนมาเล่นแจกแต้มธรรมดาหรือแค่เอาเสมอ เวียดนามเสียมากกว่า ทั้งที่ออสเตรเลียมีโอกาสยิงมากกว่าเกือบ 2 เท่า

แต่ก็สามารถเอาชนะเวียดนามมาด้วยสกอร์ 1 – 0 ซึ่งประตูนี้ได้มาจาก อัจดิน ฮรุสติก ที่เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลเลยไปถึง ไรอัน แกรนต์ โหม่งเข้าตาข่าย จากชัยชนะของออสเตรเลียครั้งนี้นั้น มีคะแนนเก็บ 6 คะแนน จาก 2 นัดและมาในรอบที่ 3 ก็พบกับ ญี่ปุ่นเรียกได้ว่าเป็นศึกที่ดุเดือดในโซนเอเชียเลยไม่น้อย จริงๆ แล้วออสเตรเลียคือทีมเต็งที่จะลงเอยด้วยการเป็นท็อปเปอร์ของกลุ่มบี โดยทีมที่ดีที่สุดอันดับสองในกลุ่มเดียวกัน ญี่ปุ่นประสบความพ่ายแพ้แคบๆ ในเกมเปิด

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

ญี่ปุ่น : ชูอิจิ กอนดะ, มายะ โยชิดะ, ยูโตะ นากาโตโมะ, ฮิโรกิ ซากาอิ, ทาเคฮิโระ โทมิยะสึ, วาตารุ เอ็นโดะ, อาโอ ทานากะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, ยูยะ โอซาโกะ, ทาคุมิ มินามิโนะ, จุนยะ อิโตะ

ออสเตรเลีย : แม็ต ไรอัน, เทรนท์ เซนส์บิวรี, อาซิช เบฮิช, แฮร์รี ซุตตาร์, ฟราน คาราซิช, แอรอน มอย, ทอม โรกลิช, แจ็คสัน เออร์ไวน์, ไอจ์ดิน ฮรุสติช, มาร์ติน บอยล์, อดัม แท็กการ์ต

ประวัติและผลงานของ 2 ทีมชาติ

ทีมชาติออสเตรเลีย เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนจากประเทศออสเตรเลีย ในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ อยู่ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย ทีมชาติออสเตรเลียมีชื่อเล่นอย่างเป็นทางการคือ ซอกเกอร์รูส์ (Socceroos) หรือ จากชื่อเต็มว่า ควอนตัสซอกเกอร์รูส์ โดยสายการบินควอนตัสเป็นผู้สนับสนุนหลักของทีมชาติ ทีมชาติออสเตรเลียในอดีตได้ร่วมเล่นในการแข่งขันของ สมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนีย จนกระทั่งในปี 2549 ได้ย้ายมาร่วมเล่นกับทีมอื่นในทวีปเอเชีย และมี ฟรังโก โฟดา วัย 55 ปีเป็นผู้จัดการทีม

ผลงานของทีมชาติออสเตรเลีย

• ฟุตบอลโลก เข้าร่วม 3 (ครั้งแรกใน 1974) ผลงานดีที่สุด รอบ 2 ใน 2006,
• เอเชียนคัพ เข้าร่วม 3 (ครั้งแรกใน 2007) ผลงานดีที่สุดช ชนะเลิศ 2015,
• โอเอฟซีเนชันส์คัพ เข้าร่วม 6 (ครั้งแรกใน 1980) ผลงานดีที่สุด ชนะเลิศ 1980, 1996, 2000, 2004,
• คอนเฟเดอเรชันส์คัพ เข้าร่วม 4 (ครั้งแรกใน 1997) ผลงานดีที่สุด รองชนะเลิศ 1997

ฟรังโก โฟดา วัย 55 ปี ลงเล่นในลีกสูงสุดกว่า 400 นัดในเยอรมนี (ตะวันตก) สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย ในช่วงคาถาที่สองของเขากับ1. เอฟซีเลาเทิร์นในปี 1980 เขาได้รับรางวัลสองหมวกกับโค้ช Franz Beckenbauer ที่หางเสือของทีมชาติเยอรมนีตะวันตก Foda เล่นกับอาร์เจนตินาและบราซิลในปลายปี 1987 ระหว่างการปรากฏตัวในต่างประเทศครั้งแรกของเขา เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ที่บราซิเลียกับบราซิล โฟดาเป็นจุดศูนย์กลางของการโต้เถียง ทั้งตอนที่อ่านชื่อทีมและต่อมาเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัว เขาได้รับเสียงปรบมือจากแฟนบอลชาวบราซิลอย่างมาก

ทีมชาติญี่ปุ่น เป็นทีมฟุตบอลแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่น หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนปัจจุบันคือ ฮาจิเมะ โมริยาซุ ซึ่งก็ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนของทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีด้วย เดิมญี่ปุ่นเป็นเพียงทีมฟุตบอลสมัครเล่นขนาดเล็ก แต่ในทศวรรษ 1990 ฟุตบอลญี่ปุ่นได้เข้าสู่ระบบอาชีพอย่างเต็มตัว ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชีย พวกเขาผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในหกครั้งหลังสุดท้าย โดยผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในปี 2002, 2010, และ 2018

ญี่ปุ่นเป็นชาติที่ชนะเลิศเอเชียนคัพมากที่สุดที่สี่สมัยในปี 1992, 2000, 2004 และ 2011 นอกจากนี้ ยังเคยจบอันดับที่สองในฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2001 และเอเชียนคัพ 2019 ทีมชาติญี่ปุ่นเป็นเพียงทีมเดียวจากเอเอฟซีที่เคยเข้าชิงชนะเลิศในรายการแข่งขันฟุตบอลชายของฟีฟ่า การก้าวกระโดดของฟุตบอลญี่ปุ่นในระยะเวลาอันสั้นเป็นแรงบันดาลใจและตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาฟุตบอล ญี่ปุ่นมีคู่ปรับร่วมทวีปหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้, เกาหลีเหนือ, จีน, ออสเตรเลีย, อิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย

ผลงานของทีมชาติญี่ปุ่น

• ฟุตบอลโลก เข้าร่วม 6 (ครั้งแรกใน 1998) ผลงานดีที่สุด รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2002, 2010, 2018)
• เอเชียนคัพ เข้าร่วม 9 (ครั้งแรกใน 1988) ผลงานดีที่สุด ชนะเลิศ (1992, 2000, 2004, 2011)
• โกปาอาเมริกา (เป็นทีมรับเชิญ) เข้าร่วม 2 (ครั้งแรกใน 1999) ผลงานดีที่สุด รอบแบ่งกลุ่ม (1999, 2019)
• คอนเฟเดอเรชันส์คัพ เข้าร่วม 5 (ครั้งแรกใน 1995) ผลงานดีที่สุด รองชนะเลิศ (2001)

ฮาจิเมะ โมริยาซุ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลแทนที่ของอากิระ นิชิโนะและเป็นอดีตนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่น เขาลงเล่นมากกว่า 250 นัดจาก 14 ปีกับซานเฟรช ฮิโรชิมะ เกียวโตซังงะ และเวกัลตะเซนได เขาลงเล่นในนามทีมชาติทั้งหมด 35 นัดพี่ชายและลูกชายของต่างก็เป็นนักฟุตบอลด้วย ปัจจุบันเขาเป็นผู้จัดการของทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่และทีมชาติญี่ปุ่น U-23